ความแตกต่างของเว็บ อาลีบาบา กับเว็บ อาลีเอ็กเพรส
ผู้ขาย หนีไปขายที่เว็บอาลีบาบา แต่ผู้ซื้อ หนีมาซื้อที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส
![]() |
( ภาพบน ) สินค้าที่วางขายอยู่ที่ เว็บ อาลีเอ็กเพรส |
* * * นโยบายที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส "ถ้าของหาย" คนขายจะต้องรับผิดชอบเป็นตัวเงินจำนวนเต็ม
* * * วิธีที่จะทำให้ "ของไม่หาย" อย่างหนึ่งคือการคิด "ค่าส่งแพงๆ" เพื่อจะได้มีเลข Tracking Number ที่มีประสิทธิภาพ
อย่างที่เห็นในภาพข้างบนนี้ ซึ่งเป็นสินค้าที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส ที่เป็นเข็มขัดซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มาก ราคาสินค้าก็แค่ 7.98 เหรียญ ( ปรากฏอยู่ตรงบริเวณที่มี วงรีเส้นขอบสีเขียว ล้อมรอบอยู่ในภาพข้างบนนี้ ) แต่ค่าส่งก็ "ปา" เข้าไปตั้ง 56.23 เหรียญ ( ปรากฏอยู่ตรงบริเวณที่มี วงรีเส้นขอบสีม่วง ล้อมรอบอยู่ในภาพข้างบนนี้ ) ที่คิดค่าส่งแพง ก็เพื่อที่ว่าจะได้เลข Tracking Number ที่มีประสิทธิภาพ นั่นเอง ( ของจะได้ไม่หาย )
* * * ผลที่ตามมาก็คือว่า เมื่อคิดค่าส่งแพงก็จะทำให้ "ขายสู้คนขายคนอื่นไม่ได้" เพราะ ราคารวม ( หมายถึงค่าสินค้า + ค่าส่งมาประเทศไทย ) มันแพงกว่าคนขายอีกคนอื่น
* * * ดังนั้น คนขายบางคนจึงไม่ยอมขายของที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส แต่ "ย้ายไปขายที่เว็บ อาลีบาบา" แทนเนื่องจากเมื่อของหายทางผู้ขายก็ไม่ต้องรับผิดชอบ
* * * ข้อดี ( สำหรับคนขาย ) ของเว็บ อาลีบาบา ก็คือว่า ทางคนขาย "ไม่ต้องรับผิดชอบ กรณีที่ของหาย"
* * * และข้อดี ( สำหรับคนขาย ) อีกข้อหนึ่งของเว็บ อาลีบาบา ก็คือว่า ทางคนขาย "ไม่ต้องตั้งราคาค่าส่งไว้" จึงไม่มีการเปรียบเทียบค่าส่งกัน ว่าเจ้าไหนถูกกว่า
ซึ่งเป็นผลดีกับทางคนขาย เพราะว่าเมื่อคนซื้อไม่รู้ค่าส่่ง คนซื้อก็ต้องใช้วิธีถามคนขายเป็นรายๆไป ( วิธีนี้เรียกว่า Contact Supplier ) ทำให้คนขายมีโอกาสติดต่อกับคนซื้อได้มากกว่า คือมีโอกาสที่จะพูดจาหว่านล้อมคนซื้อได้มากกว่า
ในขณะที่ถ้าเป็น เว็บ อาลีเอ็กเพรส นั้น คนซื้อกับคนขายจะ "ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับคนขายเลย" เพราะคนซื้อสามารถ "เห็นค่าส่ง ได้ทันที" ก็เลยเปรียบเทียบราคากันได้เลยว่าเจ้าไหนเมื่อราคาสินค้ารวมกับค่าส่ง ( มาประเทศไทย ) เจ้าไหนถูกกว่า ก็จะไปซื้อเจ้านั้นทันที / ทำให้คนขายที่คิดค่าส่งแพง ( ที่คิดค่าส่งแพง เพราะต้องการส่งแบบมีเลข Tracking Number ที่มีประสิทธิภาพ ) ขายของไม่ได้
สินค้าที่เว็บ อาลีบาบา มีตัวเลือกมากกว่า และมีสินค้าที่น่าสนใจมากกว่าเว็บ อาลีเอ็กเพรส
คำตอบก็คือว่า เพราะที่เว็บอาลีบาบา มีสินค้าให้เลือกหลายชนิด หลายแบบ และเป็นสินค้าที่น่าสนใจกว่าเว็บ อาลีเอ็กเพรส / ซึ่งเป็นไปอย่างนี้ ก็เพราะคนขายเขานิยมไปขายของที่เว็บ อาลีบาบา มากกว่าเว็บ อาลีเอ็กเพรส นั่นเอง
ทั้งๆที่ทั้งเว็บ อาลีบาบา และเว็บ อาลีเอ็กเพรส ก็มี เจ้าของเป็นคนๆเดียวกัน แต่คนขายชอบที่จะวางขายสินค้าของตัวเอง เฉพาะในเวบอาลีบาบา อย่างเดียว ไม่ยอมวางขายที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส
สินค้าที่เว็บ อาลีบาบา จะถูกกว่าเว็บ อาลีเอ็กเพรส
คือหมายความว่า การตั้งราคาขายที่เว็บ อาลีบาบา คนขายไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีที่ของหาย ดังนั้นเขาจึงตั้งราคาขายถูกๆได้
แต่ถ้าเป็นที่เว็บ อารีเอกเพรส คนขายเขาจะต้องเผื่อไว้ในกรณีที่ของหาย / เพราะถ้าของหายเขาจะต้องรับผิดชอบจำนวนเงินเต็มให้กับลูกค้า
ดังนั้น ราคาขายที่เว็บ อาลีเอกเพรส จึงแพงกว่า เวบอาลีบาบา เพราะคนขาย เขาต้องบวกเผื่อไว้ในกรณีที่ของหายนั่นเอง ( คือบวกเผื่อไว้สำหรับเงินที่จะต้องคืนให้กับลูกค้าในกรณีที่ของหาย )
ทำไมถึงบอกว่า เว็บอาลีบาบา ไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีที่ของหาย
ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่า การขายสินค้าของเวบ อาลีบาบา เขาจะขายแบบขายส่ง คือต้องซื้อเป็น "ร้อยชิ้น" / อีกทั้งวิธีการชำระเงิน ก็เป็นแบบการ "โอนเงินทางธนาคาร" เสียเป็นส่วนมาก
คือหมายความว่าถ้าคนซื้อ ซื้อเป็นหลักร้อยชิ้น แล้วชำระเงินด้วยการโอนเงินธนาคาร ทางเว็บ อาลีบาบา "ถึงจะ" ก็จะบังคับให้ ผู้ขายรับผิดชอบในกรณีที่ของหาย
แต่ในทางปฏิบัติ แล้ว ลูกค้ามาซื้อของ "ชิ้นเดียว" และสะดวกที่จะโอนเงินทาง PayPal มากกว่า ( ไม่สะดวกที่จะ "โอนเงินทางธนาคาร" )
คนขายก็เลยตั้งเงื่อนไขว่า ซื้อชิ้นเดียว "ก็ได้" และจ่ายทาง PayPal "ก็ได้" "แต่" ไม่มีระบบคุ้มครองลูกค้านะ / หมายความว่าคนขายจะแอบส่งของขายให้คนซื้อ โดยไม่ผ่านทางบริษัท อาลีบาบา ( คือ "แอบส่ง" )
พอเป็นการ "แอบส่ง" ( หมายถึงการที่คนขายแอบขายของให้คนซื้อโดยไม่ผ่านบริษัท อาลีบาบา ) ทางคนซื้อ จึงไม่ได้รับความคุ้มครองในกรณีที่ของหาย จากเว็บ อาลีบาบา นั่นเอง
ซึ่งลูกค้าของเว็บ อาลีบาบา ส่วนมากก็ยอม ( คือต้องยอม กรณีที่คนขาย ไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีของหาย ) เพราะการจ่ายด้วย PayPal นั้นสะดวกกว่าการโอนเงินธนาคาร และค่าธรรมเนียมการจ่ายด้วย PayPal ก็ถูกกว่าการโอนเงินทางธนาคารมาก ( การโอนเงินทางธนาคาร เสียค่าธรรมเนียมการโอน 1,500 บาท เป็นอย่างต่ำ คือหมายความว่า โอนเงิน 5 บาท ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอน 1,500 บาท ) อีกทั้งสินค้าของเว็บอาลีบาบาก็มีราคาถูกกว่าเว็บอาลีเอ็กเพรสมาก
ลูกค้าจึงยอมเสี่ยงในการที่ว่า ของหาย แต่คนขายไม่ต้องรับผิดชอบ ก็ด้วยเหตุนี้นี่เอง
ปัญหาของเว็บ อาลีเอ็กเพรส
เว็บ อาลีเอ็กเพรส นั้น มีปัญหาอย่างหนึ่งคือ คนขายไม่กล้าตั้งราคาค่าส่งสูง ( การตั้งราคาค่าส่งสูง มีผลทำให้ได้เลข Tracking Number ที่มีคุณภาพ ) เพราะจะเป็นการเปรียบเทียบกับคนขายคนอื่นแล้วทำให้ตัวเองขายของไม่ได้
แต่เมื่อตั้งราคาค่าส่งไว้ต่ำ ของก็จะหาย เพราะว่าเลข Tracking Number ใช้การไม่ได้ ( อันเนื่องมาจากค่าส่งต่ำ )
แต่เมื่อคนขายย้ายไปขายที่เว็บ อาลีบาบา เขาไม่ต้องโชว์ค่าส่งก็ได้
เมื่อไม่มีการโชว์ค่าส่ง ( หมายถึง ตอนที่ขายสินค้าที่เว็บ อาลีบาบา ) คนซื้อจึง "หลงเข้ามาถาม" ค่าส่งกับคนขาย เพื่อสอบถามว่าถ้าส่งมาประเทศไทย ราคาค่าส่งจะเป็นเทาไร / ซึ่งการที่คนซื้อ "หลงเข้ามาถาม" ก็เลย เปิดโอกาสให้คนขาย จะได้ "ชี้แจง" ได้ว่า ที่คิดค่าส่งแพง และก็เพื่อจะได้ไม่ทำให้สินค้าหาย ( คือจะได้เลข Tracking Number ที่มีประสิทธิภาพ )
ในขณะที่ถ้าเขาขายอยู่ที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส นั้น ถ้าเขาตั้งค่าส่งแพง ลูกค้าก็จะไม่เข้ามาถามอะไรเลย แล้วไปซื้อกับเจ้าอื่นแทน ทำให้คนขายไม่สามารถชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องค่าส่งที่มีราคาแพงได้
แต่ถึงอย่างไร คนซื้อ ก็ยัง"นิยม" ซื้อที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส มากกว่าซื้อที่เว็บ อาลีบาบา อยู่ดี
![]() |
( ภาพบน ) เว็บ อาลีบาบา นั้น คนซื้อต้องถามคนขายตรงๆ ถึงจะรู้ค่าส่งมาไทย |
การที่คนซื้อสอบถามคนขาย "หลายๆเจ้า" ก็จะต้องมีทั้งคนขาย เจ้าที่ขายได้ และเจ้าที่ขายไม่ได้ / ยกตัวอย่างเช่น ถามคนขาย 10 เจ้า ( เพื่อเทียบราคาค่าส่งกัน ) แต่คนซื้อก็ ซื้อแค่เจ้าเดียว ,อีก 9 เจ้าไม่ซื้อ ( คือคนซื้อ จะซื้อเจ้าที่คิดค่าส่งถูกที่สุด )
ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆเข้า ( หมายถึงว่า ถ้ามีการซื้อสินค้าหลายๆรายการ ) "แต่ละรายการ" คนซื้อก็จะถามคนขายเรื่องค่าส่ง ประมาณ 10 เจ้า และก็จะต้องมี 9 เจ้า ที่คนซื้อ ไม่ได้ซื้อ มากขึ้นเรื่อยๆ ( เพราะซื้อแค่เจ้าเดียว )
ท้ายที่สุด คนขาย ( ที่เป็นหนึ่งใน 9 เจ้า ที่มากขึ้นเรื่อยๆนั้น ) ก็จะรำคาญคนซื้อคนนี้ คือรำคาญในแง่ที่ว่า ถามราคาค่าส่งมา แต่ไม่ซื้อเสียที สุดท้าย คนขาย ก็ แบนคนๆนี้ ( เรื่องนี้ ทีมงาน tuvagroup.com เจอมากับตัวนะครับ คือถามคนขาย ( ถามค่าส่ง ) หลายเจ้า แต่ไม่ซื้อ ( เพราะทีมงานเห็นว่าค่าส่งแพง ก็เลยหันไปซื้อเจ้าที่ค่าส่งถูกๆ ) สุดท้ายทีมงานก็ โดนคนขายแบนทีมงาน tuvagroup.com เลย )
ด้วยเหตุนี้ คนซื้อ จึงไม่อยากซื้อของที่เว็บ อาลีบาบา เพราะ กลัวโดนแบน และไม่อยากยุ่งยากเรื่องการถามราคาค่าส่ง แล้วหนีไปซื้อสินค้าที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส แทน เพราะที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส นั้น เขาบอกค่าส่งไว้เรียบร้อยแล้ว แค่เอาราคาค่าสินค้าบวกกับค่าส่ง ก็รู้แล้วว่าเจ้าไหนขายถูก ก็ซื้อเจ้านั้นได้เลย ไม่ต้องถามผู้ขาย ( Contact Supplier ) ให้ยุ่งยากเหมือนเว็บ อาลีบาบา
สรุป ... ผู้ขายหนีไปขายที่เว็บ อาลีบาบา แต่ผู้ซื้อหนีมาซื้อที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส
สรุปว่า ผู้ขายหนีไปขายที่เว็บอาลีบาบา แต่ผู้ซื้อหนีมาซื้อที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส
ดังนั้น ในกรณีที่คนซื้อ จะ "ซื้อปลีก" หรือ "ซื้อสินค้าชิ้นเดียว" นั้น ก็สามารถเลือกซื้อได้ 2 แบบ คือ
* * * ซื้อที่เว็บ อาลีบาบา เพราะ สินค้ามีราคาถูก มีตัวเลือกมากมาย แต่มีข้อเสียคือ ต้อง "ถามค่าส่ง" จากผู้ขายเอง และไม่มีความคุ้มครองกรณีที่ของหาย
* * * ซื้อที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส เพราะ ไม่ต้องถามค่าส่งจากผู้ขาย เนื่องจากเราจะรู้ค่าส่งได้ทันทีเลย ( เพราะที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส เขาตั้งค่าส่งไว้ให้ดู ) ทำให้เราเทียบราคาได้เลยว่า ราคาค่าสินค้า + ค่าส่ง ( ที่เว็บ อาลีเอ็กเพรส ตั้งไว้ให้ดู ) เจ้าไหนถูกกว่ากัน ก็เลือกซื้อจากเจ้านั้นเลย และได้รับความคุ้มครองกรณีที่ไม่ได้รับสินค้า คือหมายความว่า คนขาย จะต้องคืนเงินให้คนซื้อ ในกรณีที่ของหายด้วย
แต่ข้อเสียของเว็บ อาลีเอ็กเพรส คือ ตัวเลือกสินค้าจะน้อย และสินค้าราคาค่อนข้างแพง เมื่อเทียบกับเวบ อาลีบาบา
- END -
No comments:
Post a Comment